วันมหิดลตรงกับวันที่ 24 กันยายนของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก หรือสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ ซึ่งเป็นพระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของไทย

            คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ประกาศให้วันที่ 24 กันยายนเป็นวันมหิดล ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2494 โดยในวันมหิดลจะมีการจัดกิจกรรมที่สำคัญ คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือพระบรมวงศานุวงศ์ จะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงวางพวงมาลา ณ พระราชานุสาวรีย์สมเด็จฯ พระบรมราชชนก ภายในโรงพยาบาลศิริราชเป็นประจำทุกปี

            ในแต่ละปีจะมีการจัดทำธงที่ระลึกเนื่องในวันมหิดลขึ้น เพื่อมอบให้กับผู้บริจาคเงินสมทบทุนช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ของโรงพยาบาลศิริราช รวมทั้งยังมีกิจกรรมออกหน่วยรับบริจาคของคณะนักศึกษาแพทย์และนักเรียนพยาบาลศิริราช เพื่อนำเงินเข้าสมทบทุนศิริราชมูลนิธิด้วย

            สำหรับจอมพลเรือสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ที่เราจะระลึกถึงท่านในวันมหิดลนั้น ท่านทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2435 และทรงสวรรคตเมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2472 ท่านคือพระบรมราชชนกในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ภูมิพลอดุลยเดช พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ซึ่งพระชายาของท่านก็คือสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีหรือสมเด็จย่านั่นเอง

            ส่วนตัวท่านทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 69 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และถ้านับตามลำดับแล้วท่านทรงเป็นพระโอรสพระองค์ที่ 7 ในสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี

            ท่านทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่สำคัญในด้านการแพทย์มาตลอดระยะเวลา 10 ปี ทรงอุทิศทั้งพระราชทรัพย์ พระวรกาย และพระสติกำลังเพื่อการแพทย์ในทุกๆ ด้าน รวมไปถึงการสาธารณสุข การประมงและเพาะเลี้ยงพันธุ์สัตว์น้ำ รวมทั้งทรงรับราชการในกองทัพเรือด้วย

            ด้วยเหตุนี้ในบางครั้งเราจึงเห็นพระนามของท่านปรากฏว่า กรมหลวงสงขลานครินทร์, พระราชบิดา, เจ้าฟ้าทหารเรือ, พระประทีปแห่งการอนุรักษ์สัตว์น้ำของไทย, พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของไทย หรือเจ้าฟ้ามหิดล นั่นเอง

" ขอให้ถือผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง ลาภทรัพย์และเกียรติยศจะตามมาแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ " ,เจ้าฟ้ามหิดล