นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักละครน้ำดีอย่าง "ข้าบดินทร์" ซึ่งออกอากาศทางช่องสาม ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ วันนี้เราก็เลยจะขอเกาะกระแสพาทุกคนไปรู้จักกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ในละครเรื่องนี้กันสักเล็กน้อยนะคะ ไปดูกันค่ะ
"ข้าบดินทร์" เป็นนวนิยายไทย ประพันธ์โดย "วรรณวรรธน์" มีเนื้อเรื่องอิงประวัติศาสตร์ในสมัยรัชกาลที่ 3 หรือพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นหลัก ไปจนถึงต้นรัชกาลที่ 4 ค่ะ ถ้าสังเกตจากในละครก็จะเห็นถึงการจำลองสภาพบ้านเมืองและสังคมในสมัยรัชกาลที่ 3 เช่น การติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติ ซึ่งในสมัยรัชกาลที่ 3 ถือว่าเป็นยุคแห่งการค้าขายกับต่างชาติเลยล่ะค่ะ โดยเฉพาะจีนที่มีการติดต่อค้าสำเภากันอยู่เป็นนิจ นอกจากจีนก็ยังมีชาติตะวันตกอีกหลายชาติ โดยเฉพาะ "วิลาศ" ที่เราได้ยินกันในละคร ซึ่งก็คือ "อังกฤษ" นั่นเองค่ะ และเรื่องเจรจาสัญญาที่มีอยู่ในละครก็คงจะหมายถึงสนธิสัญญาเบอร์นี ซึ่งเป็นสัญญาการค้าเสรีที่ไทยทำกับอังกฤษในสมัยรัชกาลที่ 3 รวมไปถึงสนธิสัญญาเบาว์ริงในช่วงต้นรัชกาลที่ 4 นั่นเอง
นอกจากนี้เรายังได้เห็นฉากวัดวาอารามในละครอยู่บ่อยๆ เป็นวัดที่สร้างหรือบูรณะขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 เช่น วัดราชโอรส วัดเทพธิดาราม เป็นต้น ถ้าสังเกตดีๆ ก็จะเห็นถึงพระราชนิยมของรัชกาลที่ 3 ค่ะ เพราะพระองค์ทรงโปรดศิลปะแบบจีน วัดที่พระองค์ทรงสร้างหรือบูรณะจึงมีการประดับตกแต่งโดยใช้ศิลปะของจีนผสมกับศิลปะของไทย เราเรียกว่าศิลปะแบบพระราชนิยมในรัชกาลที่ 3 ค่ะ โดยสังเกตได้จากการประดับกระเบื้องเคลือบจากจีนบนหน้าบันพระอุโบสถ การตกแต่งด้วยลวดลายมงคลแบบจีน รวมไปถึงตุ๊กตาอับเฉาที่แกะสลักจากหินเป็นรูปทวารบาลจีนค่ะ ในสมัยรัชกาลที่ 3 นั้นถือเป็นช่วงที่จีนกำลังเฟื่องฟูในไทยในทุกๆ ด้านค่ะ
มีอีกเรื่องที่ละครสะท้อนออกมาได้ชัดเจน นั่นก็คือทรงผมของผู้หญิงค่ะ จากละครเราจะเห็นว่าบรรดาหญิงสูงศักดิ์มักจะไว้ผมที่เรียกกันว่า ผมทัดหรือผมปีก และมีไรผมยาวปล่อยลงมาด้านหน้า ทรงผมแบบนี้มีปรากฏอยู่จริงในราชสำนักสยามเมื่อสมัยรัชกาลที่ 3 ค่ะ ถือว่าเป็นความงามของสตรีสูงศักดิ์ในยุคนั้น นิยมกันมาเรื่อยๆ จนมาสิ้นสุดลงในตอนต้นของรัชกาลที่ 5 หลายคนอาจจะกำลังสงสัยแล้วว่าทำไม "แม่ลำดวน" กับ "แม่บัว" จึงไว้ผมยาวแตกต่างจากผู้อื่น นั่นเป็นเพราะธรรมเนียมปฏิบัติของนางรำที่มีสังกัดอยู่ในราชสำนักจะต้องไว้ผมยาวเท่านั้นค่ะ ส่วนเรื่องการแต่งกายในละครก็ใกล้เคียงกับการแต่งกายที่มีปรากฏอยู่จริงในสมัยรัชกาลที่ 3 ถือว่าใส่ใจรายละเอียดได้อย่างดีเลยค่ะ
และสุดท้ายที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ คือบุคคลในละครที่มีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์ค่ะ เริ่มจากท่านแรกคือ เจ้าพระยาราชสุภาวดี (สิงห์ สิงหเสนี) ซึ่งภายหลังได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าพระยาบดินทรเดชา สมุหนายกและแม่ทัพใหญ่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์รัชกาลที่ 3 ค่ะ ซึ่งท่านเจ้าพระยาบดินทรเดชานี้เองที่เป็นผู้ปราบปรามข้าศึกต่างๆ ในแผ่นดินรัชกาลที่ 3 ให้หมดสิ้น และถือเป็นขุนนางคนสนิทของรัชกาลที่ 3 มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 แล้ว ในปัจจุบันมีศาลและรูปปั้นของท่านอยู่ในวัดจักรวรรดิราชาวาส ซึ่งเป็นวัดที่ท่านทำการบูรณะขึ้นใหม่เพื่อถวายเป็นพระอารามหลวงในรัชกาลที่ 3 และยังมีอนุสรณ์สถานของท่านอีกหลายที่ทั้งในไทยและกัมพูชาค่ะ
ท่านต่อมาคือ คุณชายช่วง หรือนายไชยขรรค์ มหาดเล็กหุ้มแพร (ช่วง บุนนาค) ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของเจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ บุนนาค) คุณชายช่วงถือเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในราชสำนักสยามมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 เมื่อมาถึงรัชกาลที่ 3 ก็ได้เลื่อนขึ้นเป็นหลวงนายสิทธิ์ ไปจนถึงพระยาศรีสุริยวงศ์ จางวางมหาดเล็ก ตามลำดับ ซึ่งท่านเป็นผู้สนใจในวิทยาการของชาติตะวันตกเป็นอย่างยิ่ง และเป็นผู้ควบคุมการสร้างเรือกำปั่นไฟตามอย่างตะวันตกได้สำเร็จ ท่านรับราชการเรื่อยมาจนได้รับตำแหน่งสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ซึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแทนพระองค์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ค่ะ
ท่านต่อมาคือ เจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ บุนนาค) บิดาของคุณชายช่วงนั่นเอง ท่านรับราชการมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแขกเปอร์เซีย ซึ่งในละครท่านมีศักดิ์เป็นลุงของแม่ลำดวน ดังนั้นจึงไม่แปลกค่ะที่แม่ลำดวนจะมีหน้าตาเป็นแขกขาวอย่างที่เห็น ในรัชกาลที่ 3 ท่านได้รับตำแหน่งเสนาบดีกรมพระคลังและสมุหพระกลาโหมพร้อมกันสองตำแหน่ง ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 ท่านก็ได้ขึ้นเป็นสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแทนรัชกาลที่ 4 ค่ะ
อีกท่านหนึ่งคือ นักองค์ด้วง ซึ่งมีตัวตนอยู่จริงและได้ขึ้นเป็นกษัตริย์เขมร โดยมีพระนามว่า พระบาทสมเด็จพระนโรดม หริรักษ์รามาธิบดี ซึ่งพระองค์หนีภัยเข้ามาอยู่ในราชสำนักไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 และได้กลับไปเป็นกษัตริย์เขมรโดยการแต่งตั้งของรัชกาลที่ 3 ค่ะ
ยังมีอีกหลายท่านที่มีตัวตนอยู่จริง เช่น หมอบรัดเลย์ นายห้างหันแตร นักองค์เม็ญ นักองค์อิ่ม เป็นต้น ส่วนตัวละครอื่นๆ ทั้ง "คุณพี่เหม" "แม่ลำดวน" "แม่บัว" รวมทั้งอีกหลายๆ คนเป็นตัวละครที่แต่งเพิ่มขึ้นมาโดยอิงจากประวัติศาสตร์เป็นหลักค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม ละครเรื่อง "ข้าบดินทร์" นี้ถือเป็นละครดีที่น่าสนับสนุนนะคะ อย่างน้อยเราก็ได้เรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ผ่านละครเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีค่ะ