ในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายคนคงเคยได้ยินชื่อโรคชนิดหนึ่งที่มีข่าวว่ากำลังแพร่ระบาดอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งก็คือ "โรคเมอร์ส" นั่นเองค่ะ วันนี้เรามีเรื่องราวที่ต้องรู้เกี่ยวกับโรคเมอร์สมาฝาก ไปดูกันค่ะ

               โรคเมอร์ส-โควี มีชื่อเต็มตามที่องค์การอนามัยโลกระบุไว้ว่า Middle East Respiratory Syndrome Coronavirus (MERS-CoV) คือ กลุ่มโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลัน ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจและทางเดินอาหาร ซึ่งมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ล่าสุดค่ะ 

               ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2002-2003 มีโรคระบาดชนิดหนึ่งเกิดขึ้น นั่นก็คือ โรคซาร์ส ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสโคโรน่าเช่นเดียวกัน แต่สำหรับโรคเมอร์สนี้เป็นเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ล่าสุดค่ะ ซึ่งพบครั้งแรกในปี 2012 ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย และได้แพร่กระจายไปยังประเทศใกล้เคียง ได้แก่ การ์ตา จอร์แดน ฝรั่งเศส อิตาลี และตูนีเซีย เดิมเราเรียกไวรัสนี้ว่าโนเวล โคโรน่า ไวรัส แต่ในปัจจุบันองค์การอนามัยโลกได้ใช้ชื่อใหม่ว่า "เมอร์ส-โควี (MERS-CoV)" นั่นเองค่ะ

               สำหรับพาหะนำเชื้อของโรคนี้ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่ามีต้นกำเนิดจากคนหรือสัตว์ แต่มีผลวิจัยระบุว่าอาจมีอูฐและแพะเป็นพาหะนำเชื้อ หรืออาจเป็นค้างคาวสายพันธุ์หนึ่งค่ะ

               โรคเมอร์สแพร่ระบาดจากคนสู่คน โดยเฉพาะในบ้านผู้ป่วยและในโรงพยาบาล อาการของโรคจะรุนแรงคล้ายโรคซาร์ส เชื้อจะลุกลามเข้าถึงปอดอย่างรวดเร็ว อาจถึงขั้นปอดบวมและไตวายจนเสียชีวิตในที่สุด ผู้ที่ป่วยโรคนี้มักจะมีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส มีอาการไอหอบ หายใจลำบาก ถ่ายเหลว และจะมีอาการแย่ลงอย่างรวดเร็วภายใน 1 สัปดาห์ หากรุนแรงมากอาจทำให้ระบบทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน หรือเกิดภาวะขาดออกซิเจนได้ค่ะ

               ด้วยความที่โรคเมอร์สนี้เป็นโรคใหม่ จึงยังไม่มียาต้านไวรัสที่จำเพาะต่อเชื้อนี้โดยตรง ทำได้เพียงรักษาตามอาการ ประคับประคองไม่ให้อาการทรุดลง และทำให้การอักเสบในระบบทางเดินหายใจลดน้อยลงจนหายเป็นปกติค่ะ

               สำหรับการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญนะคะ เพราะเรายังไม่มียารักษาโดยตรง ดังนั้นเราต้องป้องกันไว้ก่อนค่ะ ทำได้โดยการสำรวจตัวเองและคนใกล้ตัว หากมีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์ค่ะ และควรสวมผ้าปิดปากปิดจมูกหรือหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันเชื้อโรค อย่าลืมว่าโรคเมอร์สนี้ติดต่อกันทางลมหายใจนะคะ นอกจากนี้ควรหมั่นรักษาความสะอาด ล้างมือบ่อยๆ กินอาหารที่ปรุงสุกและใช้ช้อนกลางเสมอ ทั้งผู้ป่วยและคนรอบข้างค่ะ

               ประเทศที่เคยมีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคเมอร์สนี้ ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย การ์ตา จอร์แดน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อังกฤษ ฝรั่งเศส ตูนีเซีย เยอรมัน อิตาลี โอมาน คูเวต มาเลเซีย กรีซ ฟิลิปปินส์ จีน และเกาหลีใต้ค่ะ ซึ่งสถานการณ์ล่าสุดพบว่ามีผู้ป่วยโรคเมอร์สในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นเป็น 122 ราย และมีผู้เสียชีวิต 9 รายแล้วค่ะ

               ส่วนในประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าไทยเรามีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคนี้นะคะ เพราะพบการแพร่ระบาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย เช่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ แต่ไม่ต้องตกใจค่ะ เพราะส่วนราชการและโรงพยาบาลต่างๆ ได้เตรียมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไว้แล้ว แต่เราก็จะต้องดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ