"แม่งูเอ๋ย กินน้ำบ่อไหน?"
"กินน้ำบ่อโสก โยกไปโยกมา"
ใครเคยได้ยินประโยคเหล่านี้บ้างคะ เป็นประโยคฮิตติดปากติดหูกันเมื่อสมัยเด็กค่ะ เชื่อว่าหลายคนต้องคุ้นเคยกันอยู่บ้าง เพราะนี่คือเพลงประกอบการเล่น "งูกินหาง" นั่นเองค่ะ จำกันได้ไหมคะ
งูกินหาง เป็นการละเล่นพื้นบ้านของเด็กไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณค่ะ เล่นกันอยู่ทุกภาคทุกถิ่น ถ่ายทอดกันมาเรื่อยๆ จากรุ่นสู่รุ่น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเด็กๆ ที่เล่นกันมาก ผู้ใหญ่ก็เล่นได้นะคะ แต่จะเล่นเฉพาะช่วงงานเทศกาลสำคัญ เช่น ตรุษสงกรานต์ค่ะ มีการพบหลักฐานว่ามีการละเล่นงูกินหางในงานตรุษสงกรานต์ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเมื่อปี พ.ศ. 2475 ด้วยค่ะ นี่คือการยืนยันว่างูกินหางมีมานานแล้ว
สงสัยไหมคะว่าทำไมถึงเรียกการละเล่นนี้ว่างูกินหาง ก็เพราะว่าการเล่นงูกินหางเป็นการละเล่นที่เลียนแบบลักษณะท่าทางของงูนั่นเองค่ะ งูมีลำตัวยาว ชอบเลื้อยคดไปคดมาใช่ไหมล่ะคะ เวลาเล่นงูกินหาง เราก็เลยต้องเล่นเลียนแบบงูค่ะ โดยต้องใช้ผู้เล่นประมาณ 8-10 คน หรือจะมากกว่านี้ก็ได้นะคะ เราจะกลายเป็นงูตัวยาวมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เล่นนี่ล่ะค่ะ จากนั้นจะแบ่งผู้เล่นเป็นสองฝ่ายค่ะ ฝ่ายแรกคือพ่องู มีหนึ่งคนเท่านั้นนะคะ ส่วนอีกฝ่ายคือแม่งูและลูกงู โดยให้เป็นแม่งูหนึ่งคน ที่เหลือเป็นลูกงู ลูกงูจะต้องเกาะเอวแม่งูไว้เป็นแถวยาว เมื่อพร้อมแล้ว พ่องูก็จะเริ่มถามคำถามตามเพลง แม่งูและลูกงูก็จะช่วยกันร้องตอบค่ะ จากนั้นพ่องูจะไล่จับลูกงู ถ้าลูกงูตัวใดถูกจับ ก็จะต้องออกจากการเล่น
การละเล่นงูกินหางนอกจากจะให้ความสนุกสนานแก่เด็กๆ แล้ว ยังเป็นการฝึกความสามัคคี ฝึกการหลบหลีกภัยอันตราย ฝึกการทำงานเป็นกลุ่ม รวมทั้งเป็นการออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงด้วยค่ะ สุดท้ายนี้ เรามีเนื้อเพลงการละเล่นงูกินหางมาฝาก เผื่อใครสนใจอยากจะย้อนวัย มาดูกันเลยค่ะ
"แม่งูเอ๋ย กินน้ำบ่อไหน?"
"กินน้ำบ่อโสก โยกไปโยกมา" พร้อมแสดงท่าทางโยกตัวไปมา
"แม่งูเอ๋ย กินน้ำบ่อไหน?"
"กินน้ำบ่อหิน บินไปบินมา" พร้อมแสดงท่าทางบินไปบินมาค่ะ
"แม่งูเอ๋ย กินน้ำบ่อไหน?"
"กินน้ำบ่อทราย ย้ายไปย้ายมา" พร้อมแสดงท่าทางโยกตัวไปมาอีกรอบ
"กินหัวกินหางกินกลางตลอดตัว" หลังจากท่อนนี้ก็จะกลายเป็นความสนุกในการไล่จับล้วนๆ ค่ะ