วันสงกรานต์เพิ่งจะผ่านไป แต่เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับวันสงกรานต์มีอยู่มากมายค่ะ อย่างเช่น นางสงกรานต์ สงสัยกันไหมคะว่าทำไมวันสงกรานต์ต้องมีนางสงกรานต์ แล้วนางสงกรานต์คือใคร มาจากไหน วันนี้เรามีเรื่องเล่าเกี่ยวกับนางสงกรานต์มาฝากค่ะ ทุกคนจะได้รู้จักนางสงกรานต์มากขึ้น ไปดูกันเลยนะคะ
ตำนานเล่าว่า บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา มีเทพเจ้าองค์หนึ่งเป็นที่เคารพนับถือกันมาก นามว่า ท้าวกบิลพรหม ท้าวกบิลพรหมมีธิดาอยู่ 7 องค์ด้วยกัน เป็นเทพธิดาประจำวันต่างๆ ทั้ง 7 วัน ซึ่งเทพธิดาทั้ง 7 องค์นี่เองค่ะ ที่จะผลัดกันมาทำหน้าที่เป็นนางสงกรานต์ทุกปี ปีละหนึ่งคน ส่วนปีไหนจะมีเทพธิดาองค์ไหนมาเป็นนางสงกรานต์นั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่า วันมหาสงกรานต์ของปีนั้นจะตรงกับวันอะไรค่ะ
เรื่องของเรื่องเริ่มมาจากท้าวกบิลพรหมได้เสด็จลงมาบนโลก เพื่อมาถามปัญหาทดสอบเชาว์ปัญญากับธรรมบาลค่ะ ธรรมบาลเป็นบุตรชายของเศรษฐีคนหนึ่ง เป็นที่เล่าลือกันถึงสติปัญญาอันชาญฉลาด ว่ากันว่าธรรมบาลได้ศึกษาวิชาการต่างๆ จนสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย และยังรู้ภาษานกด้วย จึงเป็นที่กล่าวขานกันไปทั่ว ท้าวกบิลพรหมจึงเสด็จลงมาเพื่อทดสอบด้วยตัวเองค่ะ
ท้าวกบิลพรหมถามปัญหาธรรมบาลว่า "มนุษย์ทั้งหลาย ในเวลาเช้า กลางวัน เย็น แต่ละเวลานั้น ศรีอยู่ที่ใด"
โดยมีสัญญาต่อกันภายในเวลา 7 วัน ถ้าธรรมบาลตอบปัญหาไม่ได้ ก็จะถูกตัดศีรษะ แต่ถ้าตอบได้ ท้าวกบิลพรหมก็จะตัดเศียรตนให้ด้วยเช่นกัน ฝ่ายธรรมบาลใช้เวลาผ่านไปจน 6 วันแล้วก็ยังตอบปัญหาไม่ได้ค่ะ แต่แล้วก็โชคดีที่บังเอิญได้ยินการสนทนาของนกอินทรีคู่หนึ่งบนต้นตาล
นกอินทรีตัวแรกพูดว่า "พรุ่งนี้ธรรมบาลต้องถูกตัดศีรษะแน่ เราคงได้กินเนื้อมนุษย์เป็นอาหาร"
นกอีกตัวจึงถามว่า "แล้วท่านตอบปัญหาที่ท้าวกบิลพรหมถามธรรมบาลได้หรือไม่"
นกตัวแรกตอบว่า "ข้อหนึ่ง เวลาเช้า ศรีอยู่ที่หน้า มนุษย์ทั้งหลายจึงเอาน้ำล้างหน้า ข้อสอง เวลาเที่ยง ศรีอยู่ที่อก มนุษย์ทั้งหลายจึงเอาเครื่องหอมประพรมที่อก ข้อสาม เวลาค่ำ ศรีอยู่ที่เท้า มนุษย์ทั้งหลายจึงเอาน้ำล้างเท้า"
เมื่อธรรมบาลได้ยินเช่นนั้นก็จำไว้ และไปตอบท้าวกบิลพรหมในวันรุ่งขึ้น เมื่อท้าวกบิลพรหมเป็นฝ่ายแพ้ จึงต้องตัดเศียรตามสัญญา แล้วปัญหาก็เกิดขึ้นค่ะ เพราะเศียรของท้าวกบิลพรหมนี้ หากนำไปตั้งบนแผ่นดิน ก็จะเกิดไฟไหม้ไปทั่วโลก หากทิ้งไว้บนอากาศ ก็จะเกิดฝนแล้ง หากทิ้งลงในมหาสมุทร น้ำก็จะเหือดแห้งไปหมดสิ้น ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของเหล่าธิดาทั้ง 7 องค์ค่ะ ที่จะต้องผลัดกันนำพานมารองรับเศียรไว้ โดยต้องจัดเป็นขบวนแห่รอบเขาพระสุเมรุพร้อมเทพบริวารทุกปี ซึ่งวันที่แห่ก็คือวันมหาสงกรานต์นั่นเองค่ะ อยากรู้ไหมคะว่านางสงกรานต์ทั้ง 7 องค์ มีใครกันบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
วันอาทิตย์ นามว่า ทุงษเทวี สวมชุดสีมณีแดง ทัดดอกทับทิม เครื่องประดับคือปัทมราช อาหารคือผลมะเดื่อ ถือจักรและสังข์ มีครุฑเป็นพาหนะ
วันจันทร์ นามว่า โคราคเทวี สวมชุดสีเหลือง ทัดดอกปีบ เครื่องประดับคือมุกดา อาหารคือน้ำมัน ถือพระขรรค์และไม้เท้า มีเสือเป็นพาหนะ
วันอังคาร นามว่า รากษสเทวี สวมชุดสีเพทาย ทัดดอกบัวหลวง เครื่องประดับคือหินโมรา อาหารคือโลหิต ถือตรีศูลและธนู มีหมูเป็นพาหนะ
วันพุธ นามว่า มณฑาเทวี สวมชุดสีมรกต ทัดดอกจำปา เครื่องประดับคือไพฑูรย์ อาหารคือนมเนย ถือเหล็กแหลมและไม้เท้า มีลาเป็นพาหนะ
วันพฤหัสบดี นามว่า กิริณีเทวี สวมชุดสีไพฑูรย์ ทัดดอกมณฑา เครื่องประดับคือมรกต อาหารคือถั่วงา ถือขอช้างและหน้าไม้ มีช้างเป็นพาหนะ
วันศุกร์ นามว่า กิมิทาเทวี สวมชุดสีเพชร ทัดดอกจงกลนี เครื่องประดับคือบุษราคัม อาหารคือกล้วยน้ำ ถือพระขรรค์และพิณ มีควายเป็นพาหนะ
วันเสาร์ นามว่า มโหธรเทวี สวมชุดสีนิล ทัดดอกสามหาว เครื่องประดับคือนิลรัตน์ อาหารคือเนื้อทราย ถือจักรและตรีศูล มีนกยูงเป็นพาหนะ
ตอนนี้ทุกคนก็ได้รู้เรื่องราวของนางสงกรานต์กันแล้วนะคะ พอจะเดาออกกันไหมคะว่าสงกรานต์ปีนี้มีเทพธิดาองค์ใดเป็นนางสงกรานต์ คำตอบก็คือ รากษสเทวีค่ะ เพราะว่าวันมหาสงกรานต์ปีนี้ ตรงกับวันที่ 14 เมษายน ซึ่งเป็นวันอังคารค่ะ และเทพธิดาประจำวันอังคารก็คือนางรากษสเทวีนั่นเอง