เนื่องจากสมเด็จพระเทพฯ ทรงสนพระทัยในการอนุรักษ์มรดกไทยเป็นพิเศษ จึงทำให้วันที่ 2 เมษายนของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์นี้ ถูกจัดตั้งให้เป็นวันอนุรักษ์มรดกไทยด้วย เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติค่ะ
แต่ยังมีงานอีกด้านหนึ่งนะคะ ที่พระองค์ทรงสนพระทัยไม่แพ้กัน นั่นก็คืองานด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารค่ะ พระองค์ทรงพัฒนาเพื่อเด็กและเยาวชนในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ด้านโภชนาการและสุขภาพอนามัย ด้านการศึกษา ด้านการงานอาชีพและสหกรณ์ ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมด้วยค่ะ
เราไปดูกันนะคะ ว่าพระองค์ทรงงานเพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารอย่างไรบ้าง โดยจะยกพระราชดำรัสบางส่วนของพระองค์ ที่เกี่ยวกับงานพัฒนาในแต่ละด้าน มาให้อ่านกันด้วยค่ะ
ด้านโภชนาการและสุขภาพอนามัย
"...ข้าพเจ้าเริ่มวางแผนงานโภชนาการ สำหรับเด็กนักเรียนในโรงเรียน โดยคิดว่าเราควรสอนวิชาเกษตร และให้นำผลผลิตทางการเกษตรมาปรุงอาหาร พร้อมทั้งสอนความรู้เบื้องต้นด้านโภชนาการด้วย..."
พระองค์ทรงจัดตั้งโครงการอาหารกลางวันผักสวนครัวขึ้นเป็นโครงการแรกค่ะ เพื่อแก้ปัญหาด้านอาหารการกิน ให้กับเด็กนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันนั่นเองค่ะ
ด้านการศึกษา
"...การส่งเสริมคุณภาพของการศึกษา เป็นการหาทางให้เกิดความเท่าเทียมกันในโอกาสที่จะได้รับการศึกษาเพิ่มมากขึ้น ในเมื่อบุคคลที่เคยอยู่ในสภาพแร้นแค้นและยากจน สามารถพัฒนาตนเองขึ้นได้นั้น ก็จะมีส่วนทำให้ประเทศมีความมั่นคงและพัฒนาขึ้นต่อไป..."
พระองค์ทรงจัดตั้งโครงการส่งเสริมคุณภาพการศึกษาขึ้น เพื่อช่วยให้เด็กนักเรียนในถิ่นทุรกันดารได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างมีคุณภาพ และพร้อมที่จะไปศึกษาต่อในระดับสูงค่ะ
ด้านการงานอาชีพและสหกรณ์
"...มีเด็กอยู่กลุ่มหนึ่งที่ไม่สามารถเรียนต่อได้ เนื่องจากสติปัญญาไม่ดี หรือที่มีมากที่สุด คือ ไม่มีสัญชาติ เรียนต่อไม่ได้ ก็ขอให้อาจารย์จากกรมอาชีวศึกษาฝึกอาชีพต่างๆ แก่ศิษย์เก่า ชาวบ้านที่สนใจ คณาจารย์ได้ช่วยสอนให้เด็กนักเรียนด้วยวิชาที่สอนศิษย์เก่าและชาวบ้าน มุ่งเน้นให้เป็นประโยชน์ในการประกอบอาชีพสำหรับเด็กนักเรียน ให้เป็นพื้นฐานในการทำงานต่อไป..."
พระองค์ทรงจัดตั้งโครงการฝึกอาชีพ เพื่อฝึกพื้นฐานอาชีพต่างๆ ให้กับเด็กนักเรียนค่ะ เช่น งานช่าง งานประดิษฐ์ งานเกษตร เลี้ยงสัตว์ และประกอบอาหาร อีกทั้งยังทรงจัดตั้งโครงการส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้ระบบสหกรณ์ด้วยค่ะ
ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
"...งานที่เรียกว่าอนุรักษ์ธรรมชาตินั้น ก็ทำให้นักเรียนมีโอกาสได้ศึกษารู้ถึงสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติว่าจะมีประโยชน์อย่างไรกับเรา และในเรื่องของสภาพแวดล้อมนั้น จะเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้ มีความเดือดร้อนต่างๆ มากขึ้น เช่น อาจจะน้ำท่วมหรือว่าน้ำแล้งกะทันหันนั้น ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าในเรื่องของพืชธรรมชาติ ป่าไม้ หรือดินถูกทำลายไป เพราะฉะนั้นถ้าเราศึกษาให้ดีถึงเรื่องพวกนี้ หาวิธีแก้ไข ก็จะสามารถทำให้ต่อไปเราได้รักษาสมบัติของตนเองเอาไว้ได้..."
พระองค์ทรงตระหนักถึงการลดลงอย่างรวดเร็วของพื้นที่ป่า จึงทรงจัดตั้งโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขึ้น เพื่อปลูกฝังการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นให้กับเด็กนักเรียนค่ะ
ด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรม
"...นอกจากความเจริญในทางด้านวัตถุสมัยใหม่แล้ว สิ่งที่มีความสำคัญควบคู่กันไป จะละลืมเสียมิได้ คือ ขนบธรรมเนียมประเพณีและศิลปวัฒนธรรมของชาติ อันเป็นเครื่องหมายของความเจริญที่มีมาแต่ปู่ ย่า ตา ยาย อันเป็นหน้าที่ของเราผู้เป็นลูกหลานในชั้นหลัง จะต้องช่วยกันรักษา และส่งเสริมไว้ให้มีความเจริญสืบไป..."
สมเด็จพระเทพฯ ทรงเน้นงานพัฒนาด้านวัฒนธรรม ควบคู่กับงานพัฒนาด้านอื่นๆ ค่ะ เพื่อปลูกฝังให้เด็กนักเรียนมีความภาคภูมิใจ และรู้จักรักษาวัฒนธรรมที่มีคุณค่าของท้องถิ่นตัวเองไว้ ซึ่งงานด้านนี้จะเชื่อมโยงกับการอนุรักษ์มรดกไทยนั่นเองค่ะ
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งในการทรงงานพัฒนาของพระองค์เท่านั้นนะคะ เพราะพระองค์ยังทรงงานพัฒนาในด้านอื่นๆ อีกมากมายเลยล่ะค่ะ หากใครสนใจ ก็ลองศึกษาการทรงงานของพระองค์ดูนะคะ อาจจะนำมาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนางานของเราเองได้ค่ะ