เนื่องในวันที่ 2 เมษายนนี้ เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม-ราชกุมารี ซึ่งในปีนี้ เป็นปีที่พระองค์ทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษาพอดี หน่วยงานต่างๆ จึงได้มีการจัดเตรียมงานเฉลิมพระเกียรติ ฉลองครบ 60 พรรษากันอย่างคึกคัก ดังนั้นเราก็เลยจะพาทุกคนไปรู้จักกับเรื่องราวพระราชประวัติ และพระเกียรติคุณมากมายของสมเด็จพระเทพฯ ค่ะ ไปดูกันเลยนะคะ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์ที่ 3 ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพฯ เสด็จ พระราชสมภพเมื่อวันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2498 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต โดยได้รับพระราชทานพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา กิติวัฒนาดุลโสภาคย์
จากนั้นด้วยความที่พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกิจจานุกิจมากมาย ซึ่งล้วนแต่เป็นประโยชน์ต่อแผ่นดินและราษฎร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพระราชอิสริยยศ และพระราชอิสริยศักดิ์ เป็นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี ในคราวที่มีพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม พ.ศ. 2520 นอกจากนี้สมเด็จพระเทพฯ ยังทรงได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งราชอาณาจักรไทย และทรงรับการทูลเกล้าฯ ถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศด้วย
ส่วนเรื่องการศึกษานั้น พระองค์ทรงสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายในแผนกศิลปะ จากโรงเรียนจิตรลดา และทรงศึกษาระดับอุดมศึกษาที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พระองค์ทรงเข้ารับพระราชทานปริญญาอักษรศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เหรียญทอง สาขาวิชาประวัติศาสตร์ ต่อมาทรงเข้ารับการศึกษาระดับมหาบัณฑิตพร้อมกันสองแห่ง โดยทรงสำเร็จการศึกษาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาจารึกภาษาตะวันออก จากคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ในปีการศึกษา 2522 และทรงสำเร็จการศึกษาอักษรศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาบาลี - สันสกฤต จากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปีการศึกษา 2524 จากนั้นก็ทรงเข้าศึกษาต่อในระดับดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และทรงสำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ. 2529
นอกจากการศึกษาในระบบแล้ว พระองค์ยังทรงศึกษาเพิ่มเติมจากการดูงาน และการฝึกอบรมอีกหลายด้าน เช่น ภูมิศาสตร์กายภาพ อุทกศาสตร์ พฤกษศาสตร์ การจัดการทรัพยากรดินและน้ำ รีโมตเซนซิ่ง ระบบภูมิ-สารสนเทศ แผนที่ โภชนาการ เป็นต้น ทั้งนี้ก็เพราะพระองค์ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะนำความรู้จากวิชาการเหล่านี้ ไปประยุกต์ใช้ในการทรงงานพัฒนาชุมชน และยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร ทำให้ทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลเกียรติยศ ตำแหน่งเกียรติคุณ และปริญญากิตติมศักดิ์ จากสถาบันและองค์กรต่างๆ ทั้งใน และต่างประเทศเป็นจำนวนมาก
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ คือพระราชประวัติ และพระเกียรติคุณมากมายของสมเด็จพระเทพฯ ค่ะ พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถเกือบทุกด้าน อีกทั้งยังทรงสนพระทัยเป็นพิเศษเกี่ยวกับงานพัฒนาชุมชน เช่นเดียวกับ พระราชบิดาของพระองค์ด้วยค่ะ