วันนี้วันที่ 23 ตุลาคม เป็นวันปิยมหาราช คือตรงกับวันที่สมเด็จพระปิยะมหาราช พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต เมื่อ พ.ศ. 2453 ซึ่งเราจะมารู้กันว่าวันปิยมหาราชมีความสำคัญต่อคนไทยอย่างไร
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396 ทรงครองราชย์อยู่เป็นเวลายาวนานถึง 42 ปี อันนับได้ว่ายั่งยืนยิ่งกว่าบรรดาพระมหากษัตริย์ที่ปรากฎในพระราชพงศาวดารแต่ก่อนมาทุกพระองค์ และได้ทรงพัฒนาสยามประเทศให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศทุกวิถีทาง ไม่ว่าด้านการปกครอง การศึกษา การศาล การสาธารณูปโภค การต่างประเทศ และเศรษฐกิจ กล่าวโดยสังเขป
- ทรงสร้างโรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยอย่างเป็นทางการขึ้น เริ่มจากโรงพยาบาลวังหลัง ต่อมาได้พระราชทานนามใหม่ว่า "โรงศิริราชพยาบาล" นับเป็นโรงพยาบาลหลวงแห่งแรกของเมืองไทย
- ทรงจัดตั้งกรมไปรษณีย์ขึ้นเป็นครั้งแรก
- โปรดฯ ให้สร้างทางรถไฟเป็นครั้งแรกเพื่อส่งเสริมให้การค้าและเศรษฐกิจขยายตัวกว้างขวางยิ่งขึ้น
- โปรดฯ ให้ตัดถนนสำคัญ ๆ ขึ้นหลายสาย เช่น ถนนเยาวราช ถนนราชดำเนิน
- โปรดฯ ให้บริษัทรถรางไทยจัดการเดินรถรางขึ้นในพระนคร เพื่อให้ประชาชนได้เดินทางไปมาสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
- ทรงประกาศให้เลิกประเพณีหมอบคลาน โปรดฯ ให้เลิกระบบไพร่ และเลิกทาส
พระองค์ทรงเป็นที่รักของพสกนิกร เนื่องจากทรงเอาพระทัยใส่ในความเป็นอยู่ของประชาราษฎร์ ด้วยการเสด็จออกไปตรวจราชการและประพาสต้น พบปะกับราษฎรข้าราชการเสมอ ๆ
นอกจากนั้นยังได้เสด็จไปต่างประเทศหลายคราวนับแต่ต้นราชการ คือ สิงคโปร์ ชวา พม่า อินเดีย ตลอดจนยุโรปหลายประเทศ เฉพาะกรณีเสด็จยุโรป 2 คราว เมื่อ พ.ศ. 2440 และ พ.ศ. 2450 นั้น มีผลดียิ่งต่อประเทศไทยทั้งทางการทูต และการเมือง คือทำให้ประเทศไทยได้เป็นที่รู้จักยอมรับของนานาประเทศ ทำให้ความตึงเครียดกรณีพิพาทชายแดนระหว่างไทยกับฝรั่งเศสผ่อนหนักลงเป็นเบา และทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและยุโรปแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
และยังมีพระปรีชาสามารถอีกด้านหนึ่ง คือ ด้านวรรณกรรม ด้วยรัชกาลที่ 5 ทรงเป็นทั้งกวีและนักแต่งหนังสือที่มีความรู้ ทรงมีความสามารถแต่งโคลง ฉันท์ กาพย์ บทละคร และร้อยแก้วเรื่องต่าง ๆ ทั้งด้านประวัติศาสตร์ ประเพณี และอื่น ๆ ผลงานของพระองค์ทั้งร้อยแก้วและร้อยกรองมีไม่ต่ำว่า 30 เรื่อง เช่น ไกลบ้าน เงาะป่า เป็นต้น บางเรื่องมีความหนาเกือบ 500 หน้า แม้จะทรงต้องบริหารราชการแผ่นดินและดำเนินรัฐประศาสนศาสตร์ วางนโยบายของประเทศตลอดระยะเวลาที่ครองราชย์ แต่ก็เป็นที่น่าประหลาดใจว่า ช่างทรงมีพระวิริยะอุตสาหะเสียจริง ๆ ยากที่จะหาพระมหกษัตริย์องค์ใดเทียบเทียมได้
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคตด้วยทรงประชวรพระวักกะ (ไต) พิการ ในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 รวมพระชนมายุ 57 พรรษา ด้วยผลงานอันยิ่งใหญ่ พระรูปโฉมอันงามสง่าและความเป็นอัจฉริยะของพระองค์ในแทบทุกด้านยังคงประทับใจชาวไทยมาจนถึงทุกวันนี้
ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นการสมควรแล้วที่ประชาราษฎร์ทั้งประเทศได้พร้อมใจกันสร้างพระบรมรูปทรงม้าอันสง่าผ่าเผยน้อมเกล้าฯ ถวาย พร้อมด้วยการเฉลิมพระบรมนามาภิไธยเป็นพิเศษว่า "สมเด็จพระปิยมหาราช" แปลว่า พระราชาอันเป็นที่รักยิ่งแห่งราษฎร