ทุกวันนี้หันไปทางไหนก็ได้ยินเสียงบ่น ร้อน ๆ ๆ ๆ ๆ ร้อนจนจะบ้าตาย แน่นอนว่ามีคนเป็นลมจนเสียชีวิตเพราะอากาศที่ร้อน ๆ แบบนี้มาแล้วหลายราย จากข้อมูลสถิติของกระทรวงสาธารณสุขในปี 2546-2556 มีรายงานการเสียชีวิตจากการเป็นลมแดด หรือ โรคฮีทสโตรก 196 ราย และเฉพาะปี 2556 ที่ผ่านมามีรายงานผู้เสียชีวิต 20 ราย ....ลมแดดนี่ไม่ธรรมดาเลยนะคะ
สาเหตุ เป็นอาการที่เกิดจากร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป จนไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้เป็นปกติได้ เปรียบเหมือนเครื่องยนต์ที่เกิดอาการน็อคเพราะเครื่องร้อนจัด
กลุ่มเสี่ยงเป็นโรคลมแดดได้สูงกว่าคนทั่วไป คือ
(1) ผู้ที่ทำงานหรือทำกิจกรรมกลางแดด
(2) เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้สูงอายุ
(3) ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง
(4) คนอ้วน
(5) ผู้ที่อดนอน
(6) ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
อาการ กระหายน้ำ เหงื่อไม่ออกแต่ตัวร้อนขึ้นเรื่อย ๆ หน้ามืด คล้ายจะเป็นลม วิงเวียนศรีษะ อาเจียน หัวใจเต้นผิดจังหวะ อาจมีภาวะช็อคและหมดสติ
วิธีปฐมพยาบาล
(1) ให้ผู้ป่วยอยู่ในที่ร่ม ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
(2) ขยายเสื้อผ้าหรือเครื่องแต่งกายให้หลวม
(3) ให้นอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
(4) รีบทำให้ร่างกายผู้ป่วยเย็นลงโดยเร็วที่สุด ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตัว ร่วมกับใช้พัดลมเป่าระบายความร้อน
วิธีป้องกัน
(1) ดื่มน้ำได้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว
(2) หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
(3) สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีและอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท
(4) หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะในช่วงตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 3 โมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่แดดจัด
(5) พักในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเท และดื่มน้ำทันทีที่รู้สึกอ่อนเพลีย หรือมีอาการข้างต้น
(6) เมื่อออกแดดควรกางร่ม หรือ สวมหมวกปีกกว้าง
หน้าร้อนกับความร้อนเป็นของคู่กันค่ะ ซึ่งสภาพอากาศที่ร้อนจัดนอกจากจะส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกายดังที่กล่าวมาแล้ว ก็ยังส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจด้วย ที่เห็นได้ชัดเจนคือ ทำให้หงุดหงิดอารมณ์เสีย เครียดง่ายกว่าปกติ ....ทำใจเย็นเข้าไว้ค่ะ อย่าร้อนตามอากาศ พยายามอยู่ในที่อากาศถ่ายเทปลอดโปร่ง อาบน้ำ ปะแป้งเย็น หาอะไรเย็น ๆ กิน ก็ช่วยทำให้เราสดชื่น ลดความหงุดหงิด ผ่านวันอากาศร้อน ๆ นี้ไปได้นะคะ