ในประเทศไทยมีพื้นที่ป่าไม้ที่จัดว่าอุดมสมบูรณ์มาก ๆ เหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งแล้วค่ะ ถึงแม้ว่าจะมีการกำหนดเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติไว้ทั่วประเทศ แต่ก็มีการบุกรุกหรือลักลอบตัดไม้ทำลายป่าอยู่เสมอ และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่เราจะรักษาพื้นที่ป่าไม้ให้คงอยู่ได้ค่ะ

          ป่าไม้ในประเทศไทยส่วนใหญ่แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ ป่าไม่ผลัดใบและป่าผลัดใบค่ะ และจะแบ่งแยกย่อยออกเป็นอีกหลายชนิดด้วยกัน โดยป่าไม่ผลัดใบจะแบ่งออกเป็น ป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา ป่าสน ป่าพรุหรือป่าบึงน้ำจืด ป่าชายเลน และป่าชายหาด ส่วนป่าผลัดใบจะแบ่งออกเป็น ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง และป่าหญ้าค่ะ ซึ่งในประเทศไทยมีพื้นที่ป่าผลัดใบมากกว่าป่าไม่ผลัดใบนะคะ จัดเป็น 70 - 80 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ป่าทั้งหมดในประเทศเลยค่ะ

          สำหรับสาเหตุของการลดน้อยลงของพื้นที่ป่าในเมืองไทยนั้นมีอยู่หลายสาเหตุค่ะ เช่น การลักลอบตัดไม้ทำลายป่าซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำลายผืนป่าเมืองไทย การบุกรุกเพื่อครอบครองที่ดิน การนำพื้นที่มาใช้ในการเกษตร แนวเขตพื้นที่ป่าไม่ชัดเจน การจัดสร้างสาธารณูปโภค ไฟป่า และการทำเหมืองแร่ เป็นต้น ซึ่งสาเหตุเหล่านี้จะทำให้ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าไม้เหลือน้อยลงเรื่อย ๆ ค่ะ

          เมื่อป่าไม้ถูกทำลายมากขึ้น สภาพแวดล้อมและสภาพอากาศทั่วโลกก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย ดังนั้นการอนุรักษ์และเพิ่มพื้นที่ป่าไม้จึงเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นมาก ๆ ที่เราจะต้องช่วยกันนะคะ