วันที่ 24 กุมภาพันธ์ของทุกปีถูกกำหนดให้เป็นวันศิลปินแห่งชาติ เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยหรือรัชกาลที่ 2 ซึ่งนับถือกันว่าทรงมีพระปรีชาสามารถในด้านศิลปกรรมทุกแขนง และทรงเป็นผู้อุปภัมถ์ส่งเสริมศิลปินผู้มีฝีมือมาตลอดรัชสมัยของพระองค์ เพราะเหตุนี้จึงได้มีการกำหนดให้วันที่ 24 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันศิลปินแห่งชาติ เพื่อรำลึกถึงรัชกาลที่ 2 ผู้ทรงเป็นพระปฐมบรมศิลปินแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ค่ะ
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงครองราชย์เป็นเวลา 15 ปี ตลอดรัชสมัยของพระองค์มีความโดดเด่นและเจริญรุ่งเรืองในด้านศิลปกรรมเป็นพิเศษ เนื่องจากพระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถในศิลปกรรมด้านต่างๆ หลายสาขา จึงทรงสนับสนุนงานศิลปกรรมเป็นพิเศษ ยกตัวอย่างเช่น
ด้านกวีนิพนธ์ ในรัชสมัยของพระองค์ได้รับการยกย่องว่าเป็นยุคทองของวรรณคดีไทย โดยเฉพาะกาพย์กลอนที่มีความไพเราะมากกว่าเดิม รวมทั้งยังมีกวีที่มีชื่อเสียงเกิดขึ้นหลายคน เช่น ตัวพระองค์เอง กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ สมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส สุนทรภู่ พระยาตรัง และนายนรินทรธิเบศร์ (อิน) เป็นต้น สำหรับผลงานของพระองค์เองมีทั้งบทกลอนและบทละครในละครนอกที่มีชื่อเสียงหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นรามเกียรติ์ อุณรุท อิเหนา ไกรทอง สังข์ทอง ไชยเชษฐ์ หลวิชัยคาวี มณีพิชัย สังข์ศิลป์ชัย เป็นต้น ซึ่งเรื่องอิเหนาได้รับการยกย่องให้เป็นยอดของบทละครรำ ยอดเยี่ยมทั้งเนื้อความ ทำนองกลอน และกระบวนการเล่นทั้งร้องและรำ นอกจากนี้ยังทรงพระราชนิพนธ์บทพากย์โขนอีกหลายชุด เช่น ชุดนางลอย ชุดนาคบาศ และชุดพรหมาสตร์ ซึ่งผลงานเหล่านี้ก็ยังคงมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมาจนปัจจุบัน
ด้านประติมากรรม พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงส่งเสริมงานช่างหล่อพระพุทธรูปเป็นพิเศษ ในรัชสมัยของพระองค์มีการคิดประดิษฐ์ลักษณะทรวดทรงของพระพุทธรูปขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในรัชสมัยของพระองค์เอง โดยพระพุทธรูปที่สำคัญคือ พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก พระประธานในพระอุโบสถวัดอรุณราชวราราม ซึ่งพระองค์ทรงปั้นหุ่นพระพักตร์เองด้วย ส่วนงานช่างแกะสลักก็มีความเจริญก้าวหน้าอย่างมาก เห็นได้จากผลงานของพระองค์ที่ทรงแกะสลักบานประตูพระวิหารพระศรีศากยมุนี วัดสุทัศนเทพวราราม ซึ่งเป็นที่ยกย่องกันว่ามีความงดงามและชำนาญในทักษะการแกะสลักเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีการบูรณะและสร้างวัดวาอารามอีกตลอดรัชสมัยของพระองค์
ด้านดนตรี ถือเป็นอีกด้านหนึ่งที่พระองค์ทรงโปรด เครื่องดนตรีที่ทรงถนัดและโปรดปรานมากคือ ซอสามสาย โดยทรงพระราชทานนามให้กับซอคู่พระหัตถ์ของพระองค์เองว่า "ซอสายฟ้าฟาด" และทรงพระราชนิพนธ์บทเพลงที่มีชื่อเสียงมาจนทุกวันนี้ ซึ่งก็คือ "เพลงบุหลันเลื่อนลอย" หรือเรียกว่า "เพลงทรงพระสุบิน" เนื่องจากเพลงนี้มีต้นกำเนิดมาจากพระสุบินของพระองค์นั่นเอง
จะเห็นได้ว่าในยุคสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยนั้น บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุขและสมบูรณ์พร้อมไปด้วยงานศิลปกรรมแขนงต่างๆ จึงได้ยกย่องกันว่าเป็นยุคทองแห่งงานศิลปกรรมไทย ซึ่งยังคงหลงเหลือและส่งต่อมาให้คนไทยในปัจจุบันได้ชื่นชมด้วย ดังนั้นจึงสมควรอย่างยิ่งที่เราจะรำลึกถึงพระองค์ในวันศิลปินแห่งชาติเป็นประจำทุกปีค่ะ