ช่วงปีใหม่เป็นช่วงแห่งการพักผ่อน เฉลิมฉลองกับครอบครัว รวมไปถึงเป็นช่วงเดินสายทำบุญไหว้พระขอพร เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตอีกด้วย ซึ่งแต่ละปีเกิดก็จะมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หรือพระธาตุเจดีย์ประจำตนอยู่แล้ว ใครเกิดปีไหนก็มักจะนิยมไปไหว้พระตามสถานที่ประจำปีเกิดของตัวเอง เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต
ปีนักษัตรทั้ง 12 ปี มีพระธาตุประจำปีเกิดของตน ดังนี้
ปีชวด มีพระธาตุศรีจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระธาตุประจำปีเกิด
ปีฉลู มีพระธาตุลำปางหลวง จังหวัดลำปาง เป็นพระธาตุประจำปีเกิด
ปีขาล มีพระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่ เป็นพระธาตุประจำปีเกิด
ปีเถาะ มีพระธาตุแช่แห้ง จังหวัดน่าน เป็นพระธาตุประจำปีเกิด
ปีมะโรง มีพระธาตุพระสิงห์ วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระธาตุประจำปีเกิด
ปีมะเส็ง มีพระมหาเจดีย์พุทธคยา วัดอนาลโย จังหวัดพะเยา เป็นพระธาตุประจำปีเกิด
ปีมะเมีย มีพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เป็นพระธาตุประจำปีเกิด
ปีมะแม มีพระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระธาตุประจำปีเกิด
ปีวอก มีพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม เป็นพระธาตุประจำปีเกิด
ปีระกา มีพระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน เป็นพระธาตุประจำปีเกิด
ปีจอ มีพระธาตุเกตุแก้วจุฬามณี วัดเกตุการาม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระธาตุประจำปีเกิด
ปีกุน มีพระธาตุดอยตุง จังหวัดเชียงราย เป็นพระธาตุประจำปีเกิด
สำหรับความเชื่อเรื่องพระธาตุประจำปีเกิดนั้นไม่ได้มีปรากฏในหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา แต่เป็นคติความเชื่อดั้งเดิมของชาวล้านนา มีบันทึกอยู่ในตำราพื้นเมืองโบราณ โดยเชื่อกันว่าก่อนที่ดวงวิญญาณจะมาปฏิสนธิในครรภ์มารดา ดวงวิญญาณจะลงมาพักอยู่ที่พระธาตุเจดีย์แห่งใดแห่งหนึ่งก่อน โดยมีสัตว์ประจำนักษัตรพามาพักไว้ และเมื่อได้เวลา ดวงวิญญาณก็จะเคลื่อนจากพระเจดีย์ไปสถิตอยู่บนกระหม่อมของผู้เป็นบิดาเป็นเวลา 7 วัน แล้วจึงเคลื่อนเข้าสู่ครรภ์มารดา และเมื่อเสียชีวิตแล้ว ดวงวิญญาณก็จะกลับไปพักอยู่ที่เจดีย์นั้นๆ ตามเดิม
ดังนั้น ชาวล้านนาจึงเชื่อว่าเป็นมงคลแก่ชีวิต เมื่อสิ้นชีพแล้วดวงวิญญาณจะได้กลับไปยังพระธาตุองค์นั้น ไม่ต้องเร่ร่อนไปในทุคติภพอื่นๆ ซึ่งความเชื่อนี้ได้แพร่หลายไปทั่วประเทศ จัดว่าเป็นความฉลาดของบรรพชนชาวล้านนาที่ใช้ความเชื่อพื้นเมืองสอนให้ลูกหลานมีความเคารพในพระพุทธศาสนาอีกทางหนึ่งด้วย