เจดีย์หรือสถูปเป็นสิ่งก่อสร้างในพุทธศาสนา พบเห็นได้ทั่วไปตามวัดวาอารามต่างๆ ส่วนใหญ่จะพบในทวีปอินเดียและเอเชีย เพราะประชาชนนับถือศาสนาพุทธกันมาก สำหรับในประเทศไทยเรามักจะเรียกกันว่า "สถูปเจดีย์" หรือ "เจดีย์" และมีความหมายเฉพาะถึงสิ่งก่อสร้างในพุทธศาสนาที่สร้างขึ้นเพื่อบรรจุอัฐิ เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูป หรือเพื่อเป็นที่ระลึกเท่านั้น
ประเทศไทยมีเจดีย์หลากหลายรูปทรง หลากหลายรูปแบบ เปลี่ยนแปลงไปตามวัฒนธรรมของผู้คนแต่ละสมัย ทำให้เจดีย์ในประเทศไทยกลายเป็นศิลปะอันเนื่องมาจากศาสนาที่น่าสนใจ นักโบราณคดีและนักประวัติศาสตร์ศิลปะได้ทำการศึกษาวิเคราะห์รูปแบบของเจดีย์ในแต่ละยุคสมัย ซึ่งเป็นการค้นพบรูปแบบศิลปะของเจดีย์ที่มีเอกลักษณ์ในยุคสมัยต่างๆ โดยเฉพาะ "เจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์"
เจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ หรือบางคนอาจจะรู้จักในชื่อ "เจดีย์ทรงดอกบัวตูม" เป็นเจดีย์ที่เป็นเอกลักษณ์ของศิลปะสุโขทัย เจดีย์ทรงนี้เกิดขึ้นในยุคสมัยอาณาจักรสุโขทัย จะพบเห็นได้เฉพาะในพื้นที่ที่มีความเกี่ยวข้องกับอาณาจักรสุโขทัย และนิยมสร้างเฉพาะในยุคสมัยสุโขทัยเท่านั้น แต่เนื่องจากเจดีย์เป็นสถาปัตยกรรมที่คงทน จึงทำให้คนรุ่นหลังอย่างเราได้มีโอกาสพบเห็นเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของประวัติศาสตร์ศิลปะสุโขทัยกันด้วย
เจดีย์ทรงนี้มีลักษณะเฉพาะของศิลปะสุโขทัย แตกต่างจากเจดีย์ทรงอื่น จัดเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของศิลปะสุโขทัย โดยลักษณะเฉพาะของเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์นี้เกิดจากการนำเอาองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมชนิดต่างๆ มาปรับปรุงเข้าด้วยกันให้เป็นเจดีย์ทรงใหม่ ส่วนล่างของเจดีย์ประกอบด้วยฐาน 2 ชนิด คือ ฐานเขียงซ้อนลดหลั่นเป็นชุด และสอบขึ้นรับฐานบัวลูกแก้วอกไก่ซึ่งปรับทรงให้สูงขึ้น ถัดขึ้นไปเป็นส่วนกลางที่เรียกว่าเรือนธาตุ ประกอบด้วยฐานซ้อน 2 ฐานที่ดัดแปลงมาจากปราสาทขอมแต่บีบทรงให้ยืดเพรียวขึ้น มีการประดับกลีบขนุนตามมุมบนของเรือนธาตุคล้ายกับปราสาทขอม ถัดขึ้นไปเป็นส่วนยอดที่เป็นทรงดอกบัวตูม แล้วต่อด้วยยอดแหลมเรียวรูปกรวย ส่วนล่างของกรวยควั่นเป็นปล้อง ต่อด้วยกรวยเรียบที่เป็นส่วนยอดสุดของเจดีย์ ซึ่งเทียบได้กับปล้องไฉนและปลี
เจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์พบได้ที่วัดมหาธาตุ วัดตระพังเงิน วัดซ่อนข้าว วัดทักษิณาราม วัดอ้อมรอบ วัดก้อนแล้ง วัดอโศการาม วัดเจดีย์เจ็ดแถว วัดสวนแก้วอุทยานน้อย วัดราหู และวัดน้อยในจังหวัดสุโขทัย