พระพุทธรูปคือรูปปั้นที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า นอกจากจะเป็นรูปเคารพแล้วยังเป็นส่วนหนึ่งในการบอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าอีกด้วย ดังนั้นการสร้างพระพุทธรูปจึงต้องสอดคล้องกับพุทธประวัติ โดยผ่านทางท่าทางและองค์ประกอบของพระพุทธรูปที่เราเรียกกันว่า "ปาง"
ในระยะแรกเริ่ม พระพุทธรูปถูกสร้างขึ้นเพียงสี่ปางตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่แห่งที่เรียกกันว่า "สังเวชนียสถาน" ซึ่งประกอบด้วย ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพานเท่านั้น ต่อมาในภายหลังจึงได้มีเพิ่มขึ้นอีกหลายปาง มีทั้งแบบท้องถิ่นที่ดัดแปลงมา และแบบที่คิดริเริ่มขึ้นใหม่ ปางที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดคือ ปางสมาธิ ปางมารวิชัย ปางแสดงธรรม และปางประทานพร
เมื่อสมัยรัชกาลที่ 3 พระองค์ได้โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรสทรงรวบรวมและเรียบเรียงตำราทางพุทธศาสนาขึ้น ในคราวนั้นมีการกล่าวถึงพระพุทธรูปทั้งหมด 40 ปาง หลังจากนั้นมาจนถึงปัจจุบันได้มีการกำหนดปางพระพุทธรูปเพิ่มขึ้นอีกหลายปางในตำราต่างๆ เช่น พระพุทธรูปปางต่างๆ ของหลวงบริบาลบุรีภัณฑ์มีจำนวน 55 ปาง, ประติมากรรมพุทธประวัติวัดทองนพคุณมีจำนวน 90 ปาง, ประวัติพระพุทธรูปปางต่างๆ ของกรมการศาสนามีจำนวน 72 ปาง รวมทั้งตำนานพระพุทธรูปปางต่างๆ ของพระพิมลธรรมมีจำนวน 66 ปาง เป็นต้น
พระพุทธรูปแต่ละปางที่ถูกสร้างขึ้นมานั้น ล้วนแต่มีความหมายที่สอดคล้องกับพุทธประวัติในแต่ละตอน ยกตัวอย่างเช่น
ปางมารวิชัย เป็นพระพุทธรูปนั่งขัดสมาธิ มือซ้ายวางหงายบนตัก มือขวาวางคว่ำบนหัวเข่าโดยมีนิ้วชี้ชี้ลงสู่พื้นดิน หมายถึงพุทธประวัติตอนตรัสรู้ที่มีพญามารมาผจญ พระพุทธเจ้าจึงชี้นิ้วเรียกพระแม่ธรณีออกมา และในที่สุดเหล่ามารก็พ่ายแพ้ไป
ปางสมาธิ เป็นพระพุทธรูปนั่งขัดสมาธิ มือทั้งสองวางหงายบนตัก โดยมือขวาวางทับมือซ้าย หมายถึงพุทธประวัติตอนตรัสรู้ที่พระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญเพียรด้วยการนั่งสมาธิ จนได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ปางปฐมเทศนา เป็นพระพุทธรูปนั่งห้อยเท้า มือขวายกขึ้นทำท่าจีบแบบวงกลม มือซ้ายวางบนตัก มักมีธรรมจักรและกวางหมอบอยู่ข้างๆ หมายถึงพุทธประวัติตอนแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน โดยทรงแสดงธรรมที่เรียกว่า "ธัมมจักกัปปวัตนสูตร"
ปางประทานพร เป็นพระพุทธรูปยืนหรือนั่ง มือซ้ายยกขึ้นเฉยๆ มือขวายกขึ้นหรือทอดลงตรงๆ โดยหันฝ่ามือออกและปลายนิ้วชี้ลง หมายถึงการให้พรและอนุญาต ซึ่งปรากฏในพุทธประวัติหลายตอน
ปางประทานอภัย เป็นพระพุทธรูปยืนหรือนั่ง มือข้างใดข้างหนึ่งยกขึ้น หันฝ่ามือออก ปลายนิ้วตั้งขึ้น ถ้าเป็นมือขวาหมายถึงพุทธประวัติตอนห้ามญาติไม่ให้วิวาทกันเรื่องน้ำ ถ้าเป็นมือซ้ายหมายถึงพุทธประวัติตอนห้ามพระแก่นจันทน์ หลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ แต่ถ้ายกมือขึ้นทั้งสองข้างจะหมายถึงพุทธประวัติตอนห้ามสมุทรที่พระพุทธเจ้าทรงปราบเหล่าชฎิล โดยห้ามไม่ให้น้ำฝนเข้ามาท่วมบริเวณที่พระองค์ประทับอยู่
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นตัวอย่างของปางพระพุทธรูปที่พบบ่อย และนิยมสร้างอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน